สมบัติสุดท้าย แม้อยู่มาตั้งแต่เกิดยอมยกให้ชาวบ้าน เปิดบ้านเกิด ‘สรพงษ์ ชาตรี’ อุทิศเพื่อชุมชน ก่อนจากไปในวัย 73 ปี
สำหรับบ้านเกิดของ “สรพงษ์ ชาตรี” เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ซึ่งเป็นบ้านเก่าแก่เหมือนในสมัยโบราณ ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ชุมชนเล็กๆที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ล่าสุด ได้ถูกเปลี่ยนเป็นเป็นพิพิธภัณฑ์ กระตุ้นการท่องเที่ยวอยุธยา เป็นศิลปินแห่งชาติและมีผลงานพิสูจน์ฝีมือมานับไม่ถ้วน
ทั้งภาพยนตร์และละคร เรื่องราวชีวิตและงานที่เคยทำไว้ของ “สรพงษ์ ชาตรี” จึงมีเรื่องเล่ามากมายให้ทั้งแฟนๆ และคนรุ่นหลังได้ศึกษา เพื่อหวังจะได้ช่วยเหลือคนที่ลำบากกว่า
ทั้งชาวบ้านในจังหวัดนั้น กระตุ้นให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้เยี่ยมชม “สรพงษ์ ชาตรี” ไม่สบายเกี่ยวกับสมอง ชาววัดหลวงพ่อโต เป็นห่วง เผยวันมาฆบูชาไม่ได้มา
อัพเดทอาการ ความเคลื่อนไหว ส่งกำลังใจให้พระเอกตลอดกาล อัพเดท “สรพงษ์ ชาตรี” ไม่ได้มาวัดหลวงพ่อโต กรรมการมูลนิธิเป็นห่วง อยากให้หายโดยเร็ว
หลังมีข่าวนายสรพงศ์ ชาตรี ซึ่งเป็นอุทยานลานบุญขนาดใหญ่ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ที่สรพงศ์ ชาตรี เป็นผู้ก่อตั้ง มีคณะกรรมการมูลนิธิ พร้อมพุทธศาสนิกชน
พร้อมคุณดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยา จะมาต้อนรับนักท่องเที่ยว นักแสวงบุญที่มาทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวัดหยุดยาวต่างๆแต่หลังจากมีสถานการณ์
ก็ไม่ค่อยได้มาที่วัด นานๆจะมาสักครั้ง โดยเฉพาะหลังมีอาการ คุณสรพงศ์และคุณดวงเดือน ไม่ได้มาที่วัดเลย กรรมการทุกคนพร้อมคนงานต่างแสดงความห่วงใย อยากให้หายโดยเร็ว
ได้เจอกับคุณสรพงศ์และคุณดวงเดือน ครั้งล่าสุดเมื่อ 10 วันที่แล้ว ตอนนี้อยู่บ้านพักที่กรุงเทพฯ ปกติก็ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพของคุณสรพงศ์มาโดยตลอด
ตอนนี้อยู่ในช่วงการรักษา ไปพบแพทย์ตามปกติ อยู่ในการดูแลของแพทย์ คุณสรพงศ์ก็ดูแลสุขภาพอย่างดี ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ รับประทานอาหารได้ พูดคุยปกติ
แต่เนื่องจากสรพงศ์เริ่มอายุมาก ปีนี้ครบ 73 ก็เริ่มมีอาการเป็นธรรมดา ตอนนี้คุณสรพงศ์ ไม่ได้มาที่วัด ตนและกรรมการฯทุกคนก็ช่วยกันดูแลมูลนิธิฯ คอยพูดคุยทางโทรศัพท์ตลอด
อยากให้คุณสรพงษ์สบายใจ ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป ทุกคนก็เป็นห่วง ไปเยี่ยมเยียนบ้าง และอยากให้หายป่วยไว ๆ สรพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2493 ที่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เป็นบุตรของนายชื้น กับนางพริ้ว เทียมเศวต จบการศึกษาชั้น ป.4 แล้วบวชเรียนตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่วัดเทพสุวรรณ พระนครศรีอยุธยา และวัดดาวดึงส์ บางยี่ขัน ธนบุรี จนกระทั่งลาสิกขาบทเมื่อ พ.ศ. 2512
ซึ่งพิมพ์อัปสร บุตรคนแรกเกิดกับทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ส่วนบุตรคนที่สองถึงสี่เกิดกับพิมพ์จันทร์ ใจวงศ์ (แอ๊ด) ปัจจุบันสมรสกับ ดวงเดือน จิไธสงค์ รองมิสไทยแลนด์เวิลด์ พ.ศ. 2529 และรองนางสาวไทย พ.ศ. 2530
ในปี พ.ศ. 2552 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ จ.นครราชสีมา
เมื่ออายุได้ 19 ปี และได้พบกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งชักชวนให้มาอาศัยอยู่ที่วังละโว้ สรพงษ์ เริ่มงานแสดงครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2512 เป็นตัวประกอบ และเป็นเด็กยกของในกองถ่ายละครเรื่อง นางไพรตานี ฉายทางช่อง 7