รวยสุดตำบล เลี้ยงปลานิล 5,000 ตัว ‘ตั๊กแตน ชลดา’ ไม่อายขายปลาร้า-น้ำพริกตำ แต่มีเงินปึกใหญ่กลับขอนแก่น
หลังจากตั๊กแตน-ชลดา ทองจุลกลาง ประกาศขายคฤหาสน์หรูบนเนื้อที่ 108 ตารางวา ในราคา 8 ล้าน
ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็มีผู้สนใจติดต่อเข้ามา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการพูดคุยแต่ยังไม่มีความชัดเจน
ซึ่งเธอก็เคยบอกว่ามีแพลนอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ และก่อนหน้านี้ในอินสตาแกรมส่วนตัวก็ลงรูปแปลงผักต่างๆ ของเธอ
เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับเธอเกี่ยวกับไอเดียการเป็นสาวชาวสวนจึงได้ทราบว่าความคิดของความอยากไปใช้ชีวิตเรียบง่ายนั้น
เกิดจากเธอเป็นคนที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน เมื่อทำงานในวงการจนมีชื่อเสียงและซื้อบ้านหลังนี้ไว้ เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มรู้สึกว่า
บ้านหลังปัจจุบันที่เธออาศัยอยู่นั้นมีขนาดใหญ่เกินความต้องการของตนเอง จึงอยากขายบ้านหลังนี้เพื่อไปซื้อบ้านอีกหลังในขนาดพอดีกับความต้องการของตนเอง
ตั๊กแตนไม่ได้มีแผนจะไปใช้ชีวิตเป็นชาวสวนอย่างถาวร เนื่องจากตนเองยังทำงานอยู่ในวงการเพลง และมีงานอยู่ในกรุงเทพฯ
เพียงแต่ความชอบชีวิตแบบชาวบ้านๆ จึงตัดสินใจไปซื้อที่ดินในจังหวัดขอนแก่นปลูกผัก ทำสวนครัว เลี้ยงปลา เพราะรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เธอได้พักผ่อน
เมื่อมีเวลาว่างจากงานยุ่งๆ ในเมืองก็จะเดินทางไปที่ขอนแก่นเสมอ ส่วนบ้านที่เห็นกันนั้นมีลักษณะเป็นเพียงกระท่อม ที่สร้างไว้แบบเรียบง่าย
ไม่มีการกั้นห้อง หรือแบ่งพื้นที่การใช้งานที่ชัดเจน เวลาไปที่สวนเธอก็จะนอนค้างที่นั่น และปลูกผักในแปลงที่เตรียมพื้นที่ไว้ สำหรับผักที่เธอปลูกมีหลายชนิด
ซึ่งล้วนเป็นผักสวนครัวไม่ว่าจะเป็นคะน้า กะหล่ำดอก มะเขือเทศ กะเพรา ผักชี ฯลฯ เมื่อได้เวลาก็เก็บมาทำอาหารทานที่บ้าน
นอกจากปลูกผักแล้วยังเลี้ยงปลาในบ่อ ที่มีทั้งบ่อเล็กเป็นบ่อพัก กับบ่อใหญ่ที่เอาไว้เลี้ยงปลาจริงจัง สำหรับภาพที่เคยเห็นเธอลอกโคลนนั้นก็คือเป็นช่วงน้ำแห้ง
จึงไปวิดบ่อปลาบ่อเล็กเพื่อจับปลา มีทั้งปลาช่อน และปลากระดี่ ส่วนปลาที่เลี้ยงในบ่อใหญ่มีหลายพันธุ์ทั้งปลาสลิด ปลากะพง ปลานิล ปลานวลจันทร์รวมๆ แล้วประมาณ 5 พันตัวฃ
ในอนาคตเธอบอกว่ามีแผนจะสร้างบ้านพักบนพื้นที่สวนแห่งนี้เช่นกัน แต่คงสร้างเป็นบ้านหลังย่อมๆ แบบเรียบง่ายไม่ได้ต้องการบ้านหลังใหญ่โตอะไร
ตั๊กแตน ชลดา เรียกว่า มีความสนใจและความสามารถด้านการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กเลยทีเดียว โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการได้ยินแม่ของตัวเองร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก
สมัยเรียนประถมและมัธยมต้นเธอเป็นคนที่อ่านทำนองเสนาะเพราะมากๆ ในวิชาภาษาไทย คุณครูจึงให้เธอเป็นตัวแทนร้องเพลงประกวด และเมื่อเธอเข้ามาศึกษาต่อในกรุงเทพ
เธอก็ได้รู้จักกับการประกวดร้องเพลงจนได้มีเพลงเป็นของตัวเองกับการประกวด First Stage Show ก่อนที่เธอจะพัฒนาตัวเองและเป็นนักร้องมืออาชีพได้เซ็นต์สัญญากับค่ายใหญ่