บ้าน ‘วิว เยาวภา’ มีลูก 4 ให้สามีก่อนยอมรับไม่ให้ไปโรงเรียน
เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักสำหรับอดีตนักกีฬาเทควันโดหญิงที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในการคว้าเหรียญทองแดง “โอลิมปิกเกมส์” ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
เมื่อปี 2004 อย่าง “วิว เยาวภา บุรพลชัย”หลังสามารถคว้าชัยในการชิงอันดับที่ 3 เรื่องความรักกับสามีที่ใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 10 ปีกับ “ตาว เกรียงไกร” ที่ไม่เคย
เปิดเผยที่ไหนมาก่อน โดยสามีของสาววิวได้เผยว่า ครั้งแรกที่ได้เจอกันคือผ่านโปรแกรม HI5 โดยสาววิวเป็นฝ่ายเข้าไปทักสามีก่อน เนื่องจากตอนนั้นสามีเปิดบริษัททัวร์
โดยสาววิวได้เผยว่า ตอนนั้นตนไม่ได้รู้สึกอะไรเลย แค่ทักไปเพราะสนใจในโปรแกรมทัวร์เท่านั้นเอง แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็สนิทกันมากขึ้น โดยสาววิวได้เผยว่า ตนไม่ได้
ชอบคนที่รูปร่างหน้าตา แต่จะโฟกัสที่ข้างในของคนคนนั้นมากกว่า นอกจากนี้สามีของสาววิวยังได้เผยอีกว่า ตอนที่รู้จักกันตอนนั้นตนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า วิว เยาวภา คืออดีตจอมเตะ
ทีมชาติ ซึ่งมารู้จริง ๆ ทีหลัง ทั้งนี้สาววิวก็ได้เคลียร์ประเด็น “แต่งงานฟ้าแลบเพราะท้องก่อนแต่ง” ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่ วิวเผยว่ามันเป็นสเต็ปของมันมากกว่า ทั้งคู่ไม่ได้สนใจ
เรื่องเร็วหรือช้า แต่รู้สึกว่า รักกันก็พร้อมแล้ว มีความสุขไม่จำเป็นต้องรออะไร แต่พอแต่งงานเสร็จเดือนถัดไปตนก็ตั้งท้องลุกคนแรกทันที ก็คงไม่ผิดที่ใครจะมองว่าท้องก่อนแต่ง
แต่เจ้าตัวก็ได้ยืนยันอีกครั้งว่า ตนไม่ได้ท้องก่อนแต่งจริง ๆ นอกจากนี้สาววิวยังเผยอีกว่า ถึงแม้จะมีลุกถึง 4 คนแต่ ตนเลี้ยงลุกเองทั้งหมด โดยที่ไม่จ้างพี่เลี้ยงเลย ด้วยเหตุผล
ที่ว่า ลุกเราเราก็อยากดูแลเอง ยอมรับว่าเหนื่อย แต่ความเหนื่อยไม่ได้อยู่ตลอดไป ซึ่งสามีก็ช่วยอีกแรง โดยสามีเป็นคนรักครอบครัว และสามารถจัดการได้หมดทุกอย่าง และนี่
เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ตนรักสามีคนนี้มาก นอกจากนี้สาววิวยังไม่ให้ลุกทั้ง 4 คนไปโรงเรียนเลย โดยตนให้ลุกเลี้ยงแบบ “โฮมสคูล” เป็นการสอนลุกอยู่ที่บ้าน สาววิวได้
อธิบายต่อว่า ตนต้องทำเอกสารส่งเขต โดยเป็นเอกสารหลักสูตรที่อิงกับกระทรวงศึกษาธิการตามช่วงวัยของลุกแต่ละคนส่งไปที่เขต และสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนเป็นแบบ
ทักษะชีวิตหรือเรียนกลุ่มสาระ ซึ่งสิ่งที่เรียนจะได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งยอมรับว่าช่วงแรกคนรอบข้างไม่เห็นด้วย เพราะกลัวว่าลุกของตนจะไม่มีสังคม แต่สามีอยากให้
ลุกเรียนแบบโฮมสคูลมาก แต่ตนยังไงก็ได้ แต่ตนจะเครียดเพราะช่วงแรก ๆ ก็หวั่นไหวกับคนรอบข้างง่าย แต่หลังจากที่เวลาผ่านไป ตนเห็นโลกที่มันเปลี่ยนไป ความรู้ต่าง ๆ
ที่มันมีมากขึ้น และการเรียนที่ควรเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย โดยวิชาการสามีจะเป็นสอนลุกเองทั้งหมด ส่วนตนจะสอนภาษาอังกฤษลุก ๆ ซึ่งทุกปีจะมีเจ้าหน้าที่มาประเมินและ
สำรวจว่าลุกตนเรียนอะไรไปบ้าง และปลายปีก็จะมีข้อสอบออกมาให้ลุกตนสอบเช่นกัน “วิวมองว่าทุกคนสามารถเป็นครูให้ลุกได้หมด ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายายก็สามารถเป็นได้ เพื่อนพ่อเพื่อนแม่ก็สามารถเป็นได้ ทุกอย่างที่ลุกได้เรียนรู้ในชีวิตประจำวันคือการเรียนหมด