X

‘ตูมตาม เชิญยิ้ม’ใช้ชีวิตหลงผิดหนี้ท่วมหัว

เงินหมดตัวขอข้าววัดกิน
ชีวิต ‘ตูมตาม เชิญยิ้ม’ เผยใช้ชีวิตหลงผิด ติดหรู หนี้ท่วมหัว

เป็นนักแสดงตลกชั้นครูอยู่ในวงการสร้างเสียงหัวเราะ และ รอยยิ้มมายาวนาน 40 ปี ‘ตูมตาม เชิญยิ้ม’ เล่าถึงบทเรียนชีวิตราคาแพง

ที่ทำเอาชีวิตเกือบแย่เพราะหลงกับแสง สี เสียง ทำงานเยอะ มีเงินมากแต่ไม่เหลือเก็บ แต่ยังดีที่ตั้งสติดึงตัวเองกลับมาทัน ปัจจุบันขอ

ใช้ชีวิตอยู่บนความพอดี พอเพียง จริงๆตลกแต่ละคนจะมีมุกตลกแล้วก็หมัดเด็ดของตัวเอง เพื่อเป็นเอกลักษณ์ทำให้ผู้ชมที่ไปดูแล้วจำและติดใจ ?

“คือมันเป็นอาวุธของการแสดงอย่างหนึ่งนะครับ ทำให้คุณผู้ชมที่ดูเราที่คาเฟ่ติดเรา อย่างผม คือ บุคลิกจะพูดช้า” ก่อนที่จะมาเป็น ‘ตูมตาม เชิญยิ้ม’

เป็นคนที่พูดช้าแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า ? “ยังครับ คือเรานั่งคิดก่อน เมื่อก่อนเราอยู่กับทีมเล็กๆ พอเราออกจากทีมเล็กๆ เราก็มาอยู่กับ

‘คุณเป็ด เชิญยิ้ม’ เพราะเขาชวนมาทำงานด้วย ‘คุณเป็ด’ เขาก็บอกเราว่าแล้วทำยังไงให้มีคาแรคเตอร์ของตัวเอง เราก็มานั่งคิดว่าหนังเรื่อง

“ตี๋ใหญ่ พ่อตี๋ใหญ่” พูดเราเลยเอาเสียงที่เขาพูดมาลองหัดเป็นเสียงเรา แล้วใส่มุกตลกลงไปในเสียงพูด เลยเป็นที่มาของคาแรคเตอร์ของเรา

เพราะว่าบางคณะไม่มีเสียงนี้” “หลังจากที่จำเขามาแล้วเราก็เอาไปหัดพูดในห้องน้ำ พูดกับกระจก แต่ชีวิตจริงเราก็พูดปกตินะครับ แต่ถามว่า

ฝึกอยู่นานไหมไม่นานนะครับ ประมาณ 1-2 อาทิตย์เราก็ค้นหาตัวเองเจอ คือถ้าเราพูดกับกระจกแล้ว ถ้าเราขำเราเองได้แล้วเก็บไว้ไปเล่นกับคนดู”

จริงๆ มีงานอยู่แล้ว แต่พอ อาเป็ด มาชวนคือทิ้งงานไปเลยหรือยังไงตอนนั้น ? “ทิ้งงานประจำไปเลยครับ ตอนนั้น สิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจทิ้งงานประจำก็

เพราะว่าอยากจะมีชื่อเสียงกับเขา เพราะอยากให้ครอบครัวสบายบ้างเลยลาออกไปเลย” แล้วอะไรคือสิ่งที่วัดว่าคนนี้เล่นตลกได้ ? “วัดจากเสียงหัวเราะ

ของคนดู แต่ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองจะคนดูจะขำเพราะว่าเสียงที่ตัวเองพูดออกไปมันช้า แต่คนดูกลับชอบแล้วเราได้รับเสียงหัวเราะของคนดูเยอะ”

เห็นว่าอยู่กับ ‘อาเป็ด เชิญยิ้ม’ 5 ปี แล้วหลังจากนั้นก็แยกออกมาเปิดคณะตัวเอง แต่ก็ยังใช้นามสกุลเชิญยิ้ม ? “เป็นนามสกุลที่พี่เขาให้ไปใช้หากิน

ในวงการ เชิญยิ้ม” ในช่วงที่โด่งดังได้เงินเดือนคือเป็นแสนต่อเดือนเลย ได้มาจากตรงไหนบ้าง ? “ได้มาจากการเล่นตามคาเฟ่ เริ่มเล่น 21.00 – ตี 4

ทุกวัน แต่พอเราเล่นตลกเสร็จก็ไม่กลับบ้าน แต่ ณ ตอนนั้นพอเราทำงานเสร็จในทุกๆ วันพอแบ่งเงินกันแล้วก็ตาสว่างแล้ว ตีว่าวันละ 4,000 บาท

Facebook Comments Box

About Natpaphat Truststore Columnist

View all posts by Natpaphat Truststore Columnist →

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *