ให้ทีละ 10 ล. ถูกคนมองใช้เกินตัว
ชีวิต ‘ลำไย ไหทองคำ’ จำใจลาออก ใช้วุฒิจบม.5 ทำงานเลี้ยงครอบครัว
ทำงานทุกวัน ยอมเหนื่อยเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข ใช่ค่ะ เราต้องดูแลแม่ ตา ยาย แล้วก็พ่อด้วยค่ะ แม่มาอยู่กับหนูที่กรุงเทพฯ
วนตากับยายอยู่ที่ต่างจังหวัด ตอนนี้ก็ให้พ่อดูแลตากับยายค่ะ เราก็จะให้ตังตากับยายทิ้งไว้ทีละ 1-2 หมื่น ส่วนถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติมเค้าก็จะบอกเราเองค่ะ
แต่ว่าพอเค้าได้ไปเค้าก็ไม่ใช้อะไร เก็บไว้เหมือนเดิมแล้วก็เอามาให้เราฝาก ให้ ส่วนคุณแม่จะเป็นคนเก็บตังให้หนู เพราะหนูเก็บตังไม่ค่อยอยู่
คนอาจจะดราม่ามองว่าเราใช้เกินตัว ก็น่าจะมีอยู่แล้วค่ะ หนูคิดว่านะ แต่อะไรที่เราทำแล้ว ครอบครัวเรามีความสุข
ดีกว่าเราทำให้คนนอกมีความสุข แล้วครอบครัวเราไม่มีความสุข มันก็ยังไงอยู่
เราก็เอาครอบครัวเรา พ่อแม่เราให้มีความสุข ให้แฮปปี้ดีกว่า หลายคนมองว่า เราลืมตัว ก็มีคนพูดค่ะ บางทีเราทำงาน เราอาจจะไม่ได้ไปเทคแคร์คนใกล้ตัว
หรือคนสนิทมากเท่าที่ควร ด้วยความที่เราทั้งหาเวลาพักผ่อนด้วย ทำงานหนักด้วย แต่หนูก็ไม่ได้ยินที่เค้าพูดหรอก
แต่เค้าน่าจะคิด ๆ กัน อย่างคนที่เคยสนิทค่ะ เพราะช่วงนี้เรามาทำงาน เราก็ทุ่มตัวเองให้กับงาน ให้กับครอบครัวด้วย ไม่ได้ไปเจอเค้าเท่าไร
ช่วงชีวิตที่ลำบากที่สุด ตอนนั้นช่วงนั้นก็มีท้อแท้นะคะ เพราะเราก็ลำบาก แต่เราก็สู้ชีวิตนะคะ ตอนนั้นยายมาขายของคนเดียว
เรียกว่ายายเป็นเสาหลักของครอบครัวเลย ส่วนตาอยู่ต่างจังหวัด แม่ก็มาช่วยยาย หนูมาเรียนในกรุงเทพฯ แม่ไม่ได้ทำงานก็มาช่วยยาย
หนูก็มาช่วยยาย ยายหาตังค์คนเดียวมาส่งหนูเรียน พอตอน ป.4 หนูก็ไปร้องเพลง ได้ค่าแรงวันละร้อยกว่าบ.
ครอบครัวเป็นแรงผลักดันให้มีทุกวันนี้ค่ะ เพราะหนูอยากให้ครอบครัวมีความสุข อยากให้เรามีเหมือนบ้านอื่นค่ะ ก็ต้องขยันเพื่อให้เรามีจุดนี้
อยากกลับไปเรียน ใช่ค่ะ อยากกลับไปเรียนนาฏศิลป์ เพราะว่าตอนก่อนหน้านี้หนูไม่ได้วางแผนชีวิตว่าจะเป็นนักร้องอาชีพ
ตอนนั้นเราคิดไว้ว่าอยากจะเป็นครูสอนนาฏศิลป์ค่ะ คือหนูเรียนจบ ม.5 ค่ะ แต่ไม่ได้เรียนต่อ
แล้วตอนนั้นหนูโดนกระแสพอดี หนูเองก็ไม่สบายใจและไม่อยากให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงด้วยค่ะ